สนทนาศึกษาทัศนะรุ่นพี่สถาปัตย์ลาดกระบัง (ตอนที่ 2)
สำหรับบทความนี้เป็นเนื้อหาในเชิงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรุ่นพี่สถาปนิกที่มีประสบการณ์ ซึ่งล้วงแต่จบการศึกษาจากภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังทั้งสิ้น และเป็นตอนที่2 ต่อจากตอนแรกที่ได้ทำการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับเฮียหนุ่ยไปก่อนแล้ว แต่สำหรับรุ่นพี่อีกคนหนึ่งถือเป็น idol รุ่นพี่ตัวจริงที่ต้องการสัมภาษณ์ และกว่าจะได้ได้คิวสนทนากันจริงๆ ก็ล่วงเลยมากวันสุดท้ายของกำหนดงาน ด้วยสาเหตุปัจจัยมากมาย รุ่นพี่คนนี้เป็นตัวอย่างของศิษย์เก่าที่จบไปประกอบอาชีพสายบริษัทเอกชน และสุดท้ายก็ได้พบและพูดคุยกับพี่คนนี้จริงๆ เสียที
- ครับ ในแง่ความรู้สึกผม ผมทำงานอยู่ในออฟฟิศที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่การจะจัดการกับสิ่งแวดล้อมเนี่ย ผมจะเจอกับพวกอี.ไอ.เอ. อยู่แล้ว เกี่ยวกับ สผ. เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม อาคารปัจจุบันไม่ว่าอาคารอาศัยรวม อาคารออฟฟิศเนี่ย จะต้องยื่น สผ.ทุกหลัง ทำให้จรรยาบรรณด้านสิ่งแวดล้อมกับสถาปนิกเนี่ย เป็นสิ่งจำเป็นที่สถาปนิกทุกคนต้องทราบ เพราะว่าอาคารทุกหลังในประเทศไทยยังไงก็ต้องปฏิบัติตามสิ่งแวดล้อมนั้น เช่น ถ้าหากเป็นอาคารพื้นที่อยู่อาศัยร่วม จะต้องจัดพื้นที่สีเขียวให้เพียงพอสำหรับ ผู้อยู่อาศัยรวมอาคารหลังนั้น แบบเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะเป็นส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าหากเป็นอาคารที่เกี่ยวกับพวกอาคารสำนังานทั่วไปเนี่ย หลักๆ อาคารที่เพิ่มเติมเรื่องสิ่งแวดล้อมเนี่ย จะกลายเป็นการเพิ่มกริมมิคในการขายของคอนโดหลังนั้น เช่น คอนโดเกรดเอก็จะเพิ่มกริมมิคว่า เป็นลีดแพลตินั่ม ลีดโกลด์ ลีดอะไรทั้งหลายแหล่ ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวเพิ่มบุลเลทของตัวแวล์ยูของค่าเช่าที่เพิ่ม ทำให้ถึงมีประเด็นมาเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึงส่วนใหญ่พูดตรงๆ พวกคอนโดเกรดบี เกรดซี อะไรพวกนี้เค้าจะไม่สนใจพวกสิ่งแวดล้อม ถ้าเป็นเกรดเออัพเนี่ยเค้าจะสนใจว่า กระจกใช้กระจกโลว์อี.หรือเปล่า มีการใช้แอร์ระบบ วี.อาร์.วี. หรือเปล่า หรือเกี่ยวกับพวกประหยัดพลังงาน การใช้น้ำทิ้ง น้ำที่ใช้จากอ่างล้างหน้ามาลดน้ำต้นไม้ในตึก ซึ่งปัจจุบันจะมีตึกปาร์คเวนเจอร์ที่ได้ลีดแพลตินั่มจากในประเทศไทย ซึ่งเค้าจะทำตามสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยจะเป็นตัวคอนเซ็ปที่ทางสถาปนิกตั้งไว้ก่อน แล้วจะมีกลุ่มงานระบบมาช่วยซัพพอร์ตว่า สิ่งแวดล้อมจะช่วยอะไรได้บ้าง เช่นกระจก น้ำใช้ ลิฟต์แบบเอ็ม.เท็น ลิฟต์แบบให้จำนวนคนอยู่เยอะขึ้น ทำให้การขนส่งให้ตึกประหยัดขึ้น ประหยัดไฟฟ้า อะไรก็มีเหตุผลมากมายด้วยกันที่ทำเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันผมว่า เราก็มาสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเนื่องจากเราจะเปิด เอ.อี.ซี. อย่างน้อยเนี่ยหลักๆ ทุกคนก็ต้องพูดว่าสิ่งแวดล้อมเป็นยังไง ตึกนี้ได้ลีดหรือเปล่าหรือไม่ได้ลีดหรือเปล่า ซึ่งหลักๆผมว่าคือหน้าที่สถาปนิกที่ควรจะรู้ว่า ไอ้การที่จะไดลีดนี้ ลีดนั้น ประเด็นควรจะเป็นอะไรมากว่าประมาณนี้ครับ แต่พื้นฐานก็คือกฎหมายที่เรารับทราบคือเหมือนง่ายๆ ทำทีสิสคอนโดปีห้าเนี่ย คอนโดก็เห็นว่าพอทำทีสิสปุ๊บทำพื้นที่เต็มไซท์หมดเลย ไม่มีใครเว้นพื้นที่ว่าง พื้นที่สีเขียวตาม สผ.เลยสักครั้ง ผมว่าจรรยาบรรณสิ่งแวดล้อมเนี่ย ควรจะสอดแทรกเข้าไปในการออกแบบอาคารให้เยอะขึ้นครับ
- ปัญหาส่วนใหญ่ผม.... ผมว่าปัญหาหลักๆที่ผมรู้สึกนะ คือเรื่องราคา( เรื่องคอส์ท) พอพวกอาคารที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เจอเรื่องคอส์ทปุ๊บ การที่จะเป็นสเป๊กกระจกจากโลว์อี. มันก็ต้องดร็อปลงมาเพราะว่าราคามันไปไม่ถึง หรือให้กระจกที่ควรจะมาจากเยอรมันก็ลงมาใช้ของประเทศจีน ซึ่งพื้นฐานจะตอบราคาหมด ซึ้งโอว์นเนอร์ก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำเป็นลีดเพื่อยื่นสิ่งแวดล้อม เนื่องจากว่าคอส์ทของที่เค้าก่อสร้างมีจำนวนจำกัด ทำให้ปัญหาของวัสดุอาคารเนี่ยจะมีปัญหาอย่างมากต่ออาคารที่เพื่อสิ่งแวดล้อมน่ะครับ
แล้วส่วนใหญ่ผมก็ทำการประกวดแบบเหมือนกันเช่น พวกประกวดแบบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เราก็จะดูงานระบบพวกดาต้าเซนเตอร์อะไรพวกนี้ แล้วก็ประกวดแบบเกี่ยวกับพวกธรรมกายมีเยอะครับ ส่วนใญ่ผมทำพวกดีไซน์เดเวอลอปมากกว่า จนกระทั่งตึกมันนิ่งละถึงให้พี่อีกคนเป็นฟอร์คอนมาทำแทน ส่วนใหญ่จะเป็นประมาณนี้ครับ
พี่ตุลย์ วีระศักดิ์ พุทธรักษา
สถาปนิกอาวุโส บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ ( ประเทศไทย) จำกัด
รายละเอียดน่าสนใจในพี่ตุลย์โดยคร่าวๆ เป็นรุ่นพี่ สถ.ลาดกระบัง รหัส 46 ในมโนทัศน์ที่พอจำได้ พี่ตุลย์เป็นรุ่นพี่ที่เก่ง น่ารักอัธยาศัยดี และเป็นที่พึ่งของน้องๆ และครั้งนี้พี่ตุลย์ก็ให้ความกรุณาเป็นพิเศษให้โอกาสสัมภาษณ์ในช่วงเวลาอันแสนยุ่งระหว่างงานโครงการใหญ่ ซึ่งผมพยายามประสานงานขอเวลาสัมภาษณ์เรื่อยมา จนกระทั่งวันนี้จึงได้มีโอกาสพบตัวจริงพี่ตุลย์อีกครั้ง
- ครับ ชื่อ....วีระศักดิ์ พุทธรักษาครับ รหัส 46020051 ครับ เกียรตินิยมอันดับ1 ครับ เกรดเฉลี่ย 3.51 ทำงาน....ปัจจุบัน ทำงานอยู่ที่บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ ( ประเทศไทย) จำกัด ครับ อาชีพปัจจุบันตำแหน่ง สถาปนิกอาวุโส.... ทำงานที่นี่มาแล้วประมาณ 5 ปีครับ ส่วนใหญ่หลักๆ คือ ผมจะทำงานพวกดีไซน์ ก็ดีไซน์ดีเวลอป ส่วนใหญ่จะเป็นพวกงานที่เริ่มจากที่ดินเปล่า เช็คกฎหมาย จนกระทั่งออกมาเป็นตึกหลังนึงได้ ครับ
- ผมก็มีน้องที่มาทำงานออฟฟิศก็เยอะทุกมหา'ลัย จุฬา ลาดกระบัง บางมด หรือเชียงใหม่อะไรอย่างนี้หน่ะครับ หากพูดแบบกลางๆไม่รุ่นพี่รุ่นน้องเนี่ย ผมว่าลาดกระบังเนี่ย โอ.เค. เข้าใจในการทำงาน เก่งในเรื่องฟังก์ชั่นที่สุด เก่งเรื่องงานระบบ รู้ว่า...พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาจะพอเก็ทนิดนึง หรือกฎหมายบางข้อจะพอเก็ทว่า....เออ เข้าใจพอรู้ดี แต่กลับบางที่แบบ เออ...แบบไม่ค่อยเก็ทเท่า คือความเป็นเด็กลาดกระบัง มันมีความเป็นเรียลิสติคขึ้นมาในการทำงานเยอะกว่าปกติขึ้นมา แล้วออฟฟิศส่วนใหญ่ชอบรับเด็กลาดกระบังเนื่องจากมีความเรียลิสติคมากขึ้น แต่ผมว่ามันจะมีข้อเสียแน่ๆ อยู่ข้อนึงคือ เด็กในมหา'ลัยรัฐบาลข้อเสียคือเรื่องภาษา ส่วนใหญ่หลังๆเนี่ยเค้าจะชอบรับเด็กบางมด ซึ่งบางมดเนี่ยส่วนใหญ่เค้าจะมีคอร์สเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งส่วนหลังเนี่ยพวกที่ดิลภาษาอังกฤษได้ พูดภาษาอังกฤษได้เป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นปัจจัยในการจะรับเป็นพนักงานเลย ถึงแม้ว่าเราจะเก่งฟังชั่นจริง เก่งการทำงานจริง งานโอ.เค.ออกมา แต่การพรีเซนต์ไม่ได้เป็นภาษาอังกฤษก็....ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นได้ เราก็จะเหมือนลูกมือทำเฉยๆ ก็มีลูกมือพูดแทนเรา
- คือถ้าหากว่ามองกลางๆนะครับ คือตั้งแต่ผมได้เรียนมาถึงปัจจุบัน ได้เห็นว่าน้องจบมาเป็นอย่างไร ผมว่าหลักสูตรหน่ะ โอ.เค. มัน โอ.เค.เหมาะกับลาดกระบัง มันสร้างมาเพื่อให้เด็กไปเป็นคนแบบนี้ ซึ่งมีการเรียนคอน มีการเรียนอีควิพเมนต์ มีการเอาวิชาคอนเอาวิชาอีควิพเมนต์มาผสมกัน แล้วซีเรียสเรื่องกฎหมาย มีการทำบุ๊คที่เน้นซีเรียสกฎหมายเฉพาะทางของอาคารแต่ละประเภท ผมว่าเนี่ยแหล่ะจึงเป็นจุดแข็งของตัวหลักสูตร ทำให้จบมาเด็กลาดกระบังจะมีจุดแข็งเรื่องกฎหมาย เรื่องงานระบบ เรื่องโครงสร้าง มากกว่าที่อื่น ซึ่งหากจะเพิ่มหลักสูตร ผมว่าจะขาดเรื่องคอนเซ็ปท์ เนื่องจากว่าลาดกระบังจะเริ่มเรียนคอนเซ็ปท์ตอนปีสามซึ่งจะช้ากว่ามหา'ลัยอื่นมากๆ ซึ่งการมีคอนเซ็ปท์เนี่ยเป็นอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล หากเราเพิ่มให้มีคอนเซ็ปท์บวกกับเรียลลิสติคได้ก็จะเป็นอะไรที่ เอ.เอ. ดีมากๆ เหมือนสร้างแวยูลของงานขึ้นมาก มากกว่าฟอร์มฟอล์โลว์ฟังก์ชั่น ซึ่งขึ้นมาจากฟังก์ชั่นง่ายๆ แล้วแกะแมส แล้วมาผสมคอนเซ็ปท์ แต่ถ้าหากมีคอนเซ็ปท์เลยมีเหตุมีผลตามฟังก์ชั่นไปตามลำดับ ผมว่าจะเป็นจุดแข็งที่ดีของทางลาดกระบังมากกว่า
- ก็คือ... ตอนแรกที่ผมสัมภาษณ์เลย ผมสัมภาษณ์กับอาจารย์น้ำเลย (ผศ.ธิติพันธ์ ตริตระการ) อาจารย์น้ำเป็นคนสัมภาษณ์ผมว่า คุณหน่ะชอบวาดอะไรที่สุด ผมก็บอกว่าผมชอบวาดรูปตึกครับ อาจารย์ก็บอกว่าพูดแบบนี้ทุกคนเลยอะไรทำนองเนี่ย.... แต่จริงๆ ผมถามทุกคน เด็กทุกคนที่จะทำอาชีพนี้ได้มักชอบเล่นเลโก้ ชอบเล่นอะไรที่มีไอดียตั้งแต่เด็กๆ แต่ๆด้วยการที่หลักสูตรประเทศไทยเรา เรียนศิลปะมาได้ถึงม.หนึ่ง ม.สอง วิชาศิลปะก็หลายไป มาจริงจังกับวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ หลงไปกับทางสายนั้นพวกนั้นมากกว่า ทำให้เด็กไม่รู้ว่าอาชีพสายเนี่ยจบมาจะเป็นเป็นอะไร แต่ผมก็สนับสนุนนะที่มีโอเพ็นเฮาส์ ให้เด็กแบบมาดูมหา'ลัยก่อนว่า เรียนไปเป็นอะไร มีหลักสูตรอะไร จบเป็นมาได้เป็นยังไง ซึ่งทำให้รู้สึกว่าที่เลือกคือใช่ เพราะทั้งหมดที่เลือกคือชีวิตทั้งหมดของเค้าที่เลือกอาชีพนี้ ซึ่งช่วงที่ผมเข้ามาถือว่า
ฟรุ๊คเลย เพราะว่าผมจะไปเรียนพวกเภสัช....ห้าๆๆ จะไปเรียนเภสัช เป็นสายหมอเป็นสายอะไรไปเลย แต่พอผมจะไปเรียนเภสัชไปเรียนเศรษฐศาสตร์ก็ไม่รู้มีอะไรดึงใจให้ผมมาเรียนลาดกระบัง ซึ่งตอนแรกผมสอบโควตาของธรรมศาสตร์ซึ่งไม่ติด แต่พอเอ็นทรานส์ก็ติดธรรมศาสตร์นะก็ไม่เลือก มาเลือกลาดกระบังแทน พ่อผมแนะว่ายังไงก็ควรเลือกมหาลัยที่แบบ อย่างน้อยก็มีรุ่นพี่เยอะมีอาจารย์ที่มีคุณภาพกว่ามหา'ลัยที่เพิ่งเปิดใหม่ พ่อผมแนะนำอย่างนี้เพราะพ่อผมก็เป็นอาจารย์สอนมหา'ลัยเหมือนกัน เค้าก็เลยบอกให้เลือกมหา'ลัยที่มีรุ่นพี่เยอะ เพื่อที่จะช่วงตัดสินใจหรือมีผลต่อไปในอนาคตหรือแบบต่อไปมีรุ่นพี่ มีอะไรแนะนำเป็นระบบที่เกิดขึ้นแบบนี้ พอมาเรียนปีหนึ่งมันก็เหมือนว่าใช่นะครับ พอเรียนไปเรื่อยๆ มันแบบ...อันนี้แหล่ะคือสิ่งที่เราคงชอบ จึงเข้ามาเรียนสายนี้ โอ.เค.ก็จบมาได้ ผมว่าชีวิตมหา'ลัย เป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุดกว่าที่ทำงาน เพราะเราไม่มีอะไรฟิคตายตัวเราก็ทำได้ทุกอย่าง เราก็มีเวลาอยู่กับเพื่อนอยู่กับอะไร แต่พอทำงานจริงมันมีเรื่อง ความรับผิดชอบ ความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ฉะนั้นพี่ว่าการใช้ชีวิตในมหาลัยควรใช้แบบเวิร์คฮาร์ดเพลย์ฮาร์ดหน่ะ คือทำงานให้เต็มที่ทำงานให้มากที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง แต่เราควรเวิร์คฮาร์ดเพลย์ฮาร์ด ซึ่งเพื่อนผมทุกคนก็เป็นเวิร์คฮาร์ดเพลย์ฮาร์ดกันหมดหน่ะครับ อาจารย์.....ห้าๆๆ
ซึ่งพอจบมาผมได้มาที่บริษัทปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ครับ ก็เค้าก็ให้ผมทำอาชีพพวกออกแบบเลย โดยที่รูปแบบองค์กรเป็นแบบส่วนหนึ่งเป็นดีไซน์เดเวลอป คือเริ่มจากดีไซน์จนกระทั่งตึกเสร็จ กระทั่งตึกออกแบบออกมาเป็นรูปร่างแล้วโอเคมี กับอีกแบบคือดีคอนซัคชั่น ก็คือคนที่ทำ อี.ไอ.เอ. เท็นเดอร์ และก็ทำฟอร์คอน ก็จะเป็นคนละกลุ่มกัน ซึงผมได้ทำตัวดีไซน์เดเวลอป คือได้ขึ้นจากไซน์เปล่า ได้ขึ้นจากกฎหมาย เช็ควอลุ่ม แล้วก็ดูว่ารีไควเมนต์เป็นอย่างไง แล้วก็ขึ้นตำแหน่งคอร์ตำแหน่งต่างๆจากตำแหน่งอาคาร จากที่ดินเปล่าขึ้นมา ซึ่งผมว่าถ้าเรามีพื้นฐานด้านกฎหมาย ด้านงานระบบ รู้ว่าใช้ลิฟต์ขนาดเท่าไหร่ ใช้บันไดหนีไฟกี่ประเภท กี่ตัว แล้วลูกลูกตั้งลูกนอนเท่าไหร่เนี่ย มัเป็นจุดเริ่มต้นในการขึ้นอาคารได้ ซึ่งเรื่องพวกเนี่ยเป็นการสอนกันไม่ได้ เราต้องแบบรู้เอง คือแบบถ้าเราเป็นเด็กจะมีคนบอกเราเองแต่ถ้าเราอายุ30-40เราไปถามว่าตึกนี้สเป็คเท่าไหร่มันก็ไม่ใช่แล้ว มันจึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูจรรยาบรรณ กฎหมายในประเทศ ฉะนั้นผมเลยได้ทำอาคารหลังแรกคือ อาคารไอวี่ ทองหล่อครับ ของพฤกษา เรียลเอสเตท ตอนนั้นผมได้ทำรีไควเมนต์ ขึ้นตึก ขึ้นเสา เช็คพื้นที่ขาย คุยกับงานระบบ คุยเรื่องสตรัคเจอร์ออกมา ซึ่งผมอาจเพิ่งใหม่มาทำไปต้นๆ จะมีคนมาดูเยอะหน่อย จะมีคนมาว่าเยอะหน่อยว่าทำไมวางแบบนี้ วางแบบนั้น แต่พอเข้าใจโพรเซสส์ของระบบการออกแบบอาคารอสังหาริมทรัพย์ ก็จะรู้ว่าโพรเซสส์ต้องดีไซน์ ดีไซน์แล้วก็โปรเจ็คลอนช์ พอจะขายคอนโดแล้วก็เริ่ม อี.ไอ.เอ. เรื่องสิ่งแวดล้อม เทนเดอร์ แล้วก็ฟอร์คอนซัคชั่น ซึ่งจะมีสเกดูลตามที่เรียนวิชาโปร์เฟส ซึ่งสเกดูลจะเป็นตัวสำคัญในงานของสถาปัตยกรรม ซึ่งเวลาในงานสถาปัตยกรรมจะมีทามมิ่งว่าอะไรก็นานเท่าไหร่ จากนั้นผมก็เริ่มทำเกี่ยวกับ พายน์ บาย แสนสิริ ครับ ก็เริ่มโอเคขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ทำดีไซน์จนถึง อี.ไอ.เอ. มีไพน์ มีอีควอน็อค บาย เมเจอร์ดีเวลอปเมนต์ เป็นอาคารคอนโดเหมือนกัน แล้วก็มี เอ็ม ลาดพร้าว ของเมอร์เจอร์ดีเวลอปเมนต์ ซึ่งเป็นไซต์ที่เล็กมากๆ ตั้งแต่ต้องสร้างไม่เกินกฎหมาย ห้ามเกินเซ็ทแบ็ค 6 เมตร คือไซน์แบบขึ้นไม่ได้แต่เราก็ต้องขึ้นให้ได้ เหมือนว่าเออ...เราต้องใช้เวลานานขึ้นมานิดนึง
Ivy Thonglor
Equinox คอนโด High Rise 42 ชั้น ริมพหลโยธิน-วิภาวดี
by Major Development
M LADPRAO CONDOMINIUM
แล้วส่วนใหญ่ผมก็ทำการประกวดแบบเหมือนกันเช่น พวกประกวดแบบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เราก็จะดูงานระบบพวกดาต้าเซนเตอร์อะไรพวกนี้ แล้วก็ประกวดแบบเกี่ยวกับพวกธรรมกายมีเยอะครับ ส่วนใญ่ผมทำพวกดีไซน์เดเวอลอปมากกว่า จนกระทั่งตึกมันนิ่งละถึงให้พี่อีกคนเป็นฟอร์คอนมาทำแทน ส่วนใหญ่จะเป็นประมาณนี้ครับ
PYNE-by-Sansiri
Q Asoke (คิว อโศก) คอนโดตึกสูง 41 ชั้น
ติดสถานี MRT เพชรบุรี จาก Q.House






